อาหารกินแบบไม่หยุดยั้งนั่นจึงทำให้คุณภาพน้ำที่เลี้ยงย่อมเสียไว ดังนั้นหลักการเลี้ยงปลาทองให้รอดมันไม่ยาก
1.ขนาดตู้เหมาะสมกับจำนวนปลา อย่าให้แน่นเกินไป
2.การให้อาหารอย่าตามใจปลาควรกำหนดให้วันล่ะ 2 มื้อเช้ากับเย็นและควรให้แต่พอดี ปลากินไม่หมดตักออก
3.เสริมด้วยอาหารสดอย่างไรทะเลบ้างอาทิตย์ล่ะครั้ง
4.ตู้ที่เลี้ยงถ้าใส่หิน 1 เดือนควรเอาหินออกมาล้างให้สะอาดเพราะปลาทองขี้มากเวลาเปลี่ยนน้ำสิ่งสกปรกมักหมักอยู่ใต้หิน นานๆเข้าปลาป่วยครับ หรือไม่ต้องใส่หินเลย
5.เปลี่ยนน้ำอย่างน้อยอาทิตย์ล่ะครั้ง ครั้งล่ะครึ่งตู้ให้มีน้ำเก่าเหลือไว้บ้าง
6.ควรมีกรองน้ำครับ อย่างน้อยกรองมุมจะช่วยทำความสะอาดคราบที่ลอยบนผิวน้ำในตู้ให้ปลามีออกซิเจนและมีน้ำหมุนเวียนในตู้และสภาพน้ำจะดีตลอดเวลาปลาแข็งแรง
ทำตามที่บอกไม่มีตายง่ายๆหล่ะครับ นอกจากดูปลาไม่เป็นไปซื้อปลาป่วยมาแล้วมาตายที่บ้านทีหลัง ^^
ส่วนการเลือกซื้อและราคาของพวกมันนั้นก็ดังนี้นะ
ปลาทองจะให้สวยต้องดูให้เป็นครับมันสามารถดูได้ 2 อย่างคือปลาทองที่ขายแบบทอปอายวิวคือสวยจากมุมบนพวกนี้สำหรับเลี้ยงในบ่อราคาไม่จำเป็นต้องแพงเอาเลี้ยงสวยงาม
กับอีกพวกคือเลี้ยงในตู้ไว้ประกวดได้ดูแยกประเภทลงไปอีกอย่างรันชู ริวกิ้น เกล็ดแก้ว และอีกหลายสายพันธ์ซึ้งก็คัดตามความสวยและมีเกณฑ์การตัดสินความสวยโดยดูจากครีบ หัว หาง ครีบว่ายทรงของปลาและลักษณธพิเศษตามสายพันธ์
อย่างเช่นพันธ์รักเร่ดูความสมบรูณ์ของตา ตาลูกโป่ง หัวสิงห์ฯลฯ
ปลาทองสวยๆราคาตัวเล็กมีตั้งแต่ 300- 700บาทใหญ่ๆก็ 1000 ถึง 2500 ซึ่งราคาแพงล้วนเป็นพ่อแม่พันธ์ที่คนที่เล่นปลาเขาซื้อเอาไปเพาะพันธ์ต่อเพื่อเอามาขายยิ่งสวยมากเอาไปประกวดได้เงินรางวัลยิ่งถ้าพ่อพันธ์สวยๆสมบรูณ์ๆมีเชื้อมากๆ หรือแม่พันธ์ที่ไข่มากๆยิ่งให้ราคาแพงตามเพราะให้ลูกสวยๆครอกนึงรวยไม่รู้เรื่อง
| ||||||||||
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น